ในโลกของระบบเสียง วงจรสัญญาณ และการออกแบบขั้วต่อ จุดหนึ่งที่ถูกมองข้ามบ่อยที่สุดคือ “ความเรียบของผิวสัมผัส” (surface flatness & smoothness)
หลายคนทุ่มเงินกับวัสดุ OCC, การชุบทอง, หัวแจ๊คเงาวับ แต่ลืมไปว่า
ถ้าผิวไม่เรียบ → สัมผัสไม่เต็ม → เสียงหาย รายละเอียดตก แม้โลหะจะดีแค่ไหน
บทความนี้คือการเปิดหัวข้อ “พื้นผิว” แบบไม่มีอ้อม ไม่มโน และลงรายละเอียดแบบวิศวกรรมจริงจัง
—
ผิวสัมผัสที่ไม่เรียบ = ปัญหาที่คุณได้ยิน แต่ไม่เคยรู้ว่ามาจากไหน
แม้โลหะสองชิ้นจะดูแนบกันจากสายตา แต่จริง ๆ แล้ว
จุดสัมผัสจริงมีแค่ยอดของผิวขรุขระ (asperities) เท่านั้น
ยิ่งผิวไม่เรียบ → ยิ่งมีช่องว่างอากาศ → กระแสไหลผ่านได้น้อย
ผลคือ:
• สัญญาณ drop บางย่าน
• ความต้านทานเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา (micro-ar ...
มีคำถามยอดฮิตในกลุ่ม DIY และคนเล่นเครื่องเสียงระดับจริงจังว่า
“สายไฟภายในเครื่องแอมป์ต้องใช้เส้นใหญ่ ๆ เท่าสายสัญญาณไหม? ไม่งั้นจะคอขวดหรือเปล่า?”
ฟังดูสมเหตุสมผลในแวบแรก แต่ถ้ามองให้ลึกขึ้นจะพบว่า —
เป็นความเข้าใจผิดที่อาจพาไปใช้วัสดุผิดหลักการโดยไม่จำเป็น
สายใหญ่ = ดีจริงหรือ?
ไม่เสมอไป
เพราะ “สายสัญญาณ” และ “สายไฟภายในเครื่อง” มีหน้าที่ต่างกันโดยสิ้นเชิง
สายสัญญาณ เช่น RCA, XLR หรือ USB ใช้ส่งสัญญาณแรงดันต่ำที่ละเอียดอ่อน กระแสต่ำมาก
สิ่งสำคัญคือการควบคุมสัญญาณรบกวน, ความต้านทาน และอิมพีแดนซ์ให้แม่นยำ
สายภายในเครื่องแอมป์ ทำหน้าที่ส่งกระแสไฟไปเลี้ยงวงจรต่าง ๆ เช่นภาคจ่ายไฟ ภาคขยาย หรือภาคควบคุม
ไม่ต้องแม่นยำแบบสายสัญญาณ แต่ต้อง ไม่ร้อน ไม่ตกคร่อมแรงดัน และไม่บีบกระแส
...
ถ้าคุณเคยสงสัยว่าสาย Coaxial ที่ใช้ส่งเสียงดิจิทัลอย่าง S/PDIF มันควรจะหน้าตาแบบไหน โครงสร้างภายในเป็นอย่างไร หรือทำไมบางสายถึง “ส่งได้” แต่เสียงกลับดูขุ่นหรือหลุดจังหวะ — บทความนี้จะพาไล่ดูตั้งแต่แกนทองแดงยันปลายหัว BNC ว่าสายดีจริงควรเป็นอย่างไร
สาย Coax คืออะไร?
สาย Coaxial คือสายส่งสัญญาณที่มีแกนทองแดงอยู่ตรงกลาง หุ้มด้วยฉนวน แล้วล้อมรอบด้วยชีลด์ (foil หรือ braid) อีกรอบ จุดสำคัญไม่ใช่แค่ใช้ทองแดงดีหรือถักแน่น แต่คือการควบคุม ความต้านทานจำเพาะ (Characteristic Impedance) ให้คงที่ไปตลอดสาย เพื่อไม่ให้สัญญาณสะท้อนกลับตอนส่งถึงปลายทาง
แล้ว “75 โอห์ม” คืออะไร และวัดอย่างไร?
75 โอห์มในที่นี้ ไม่ใช่ความต้านทานไฟฟ้าแบบโอห์มที่เราวัดด้วยมัลติมิเตอร์
แต่มันคือ “ความต้านทานจำเพาะ” หรือ Z₀ ของสาย ซึ่งเป็น Impedance ที่วัดในย่านความถี่สูง (RF)< ...
ชนิดของโพลิเมอร์หุ้มสายมีผลต่อเสียงอย่างไร?ใครที่คิดว่าแค่หุ้มสายอะไรก็ได้เหมือนกันหมด — อาจยังไม่เคยลองฟังจริงเพราะวัสดุหุ้มสาย (Polymer Sheath) ไม่ได้แค่ปกป้องสาย แต่มันเปลี่ยน “เสียง” และ “อารมณ์” ของระบบได้โดยตรง⸻วัสดุหุ้มสายแต่ละชนิดให้เสียงไม่เหมือนกัน:1. PVC (Polyvinyl Chloride) • เสียง: ทึบ แน่น แต่ไม่โปร่ง รายละเอียดอั้น • ข้อดี: ราคาถูก ดัดง่าย ใช้งานทั่วไปได้ดี • เหมาะกับ: ระบบที่ต้องการโทนหนัก มืด ไม่แหลมเกินไป2. PE (Polyethylene) • เสียง: เปิด ใส คม รายละเอียดดี • ข้อดี: คุมเสียงดี น้ำหนักเบา ต้าน EMI พอใช้ได้ • เหมาะกับ: หูฟัง in-ear หรือระบบความไวสูง3. PTFE / Teflon • เสียง: โปร่ง สะอาด รายละเอียดสูงสุด • ข้อดี: ทนความร้อนสูง เสถียรทางไฟฟ้ายอดเยี่ยม • เหมาะกับ: ระบบความละเอียดสูงที่เน้นความโปร่งสุดขีด4. FEP (Fluorinated Ethylene Propylene) • เสียง: คล้าย PTFE แต่นุ่มกว่า ...